เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์] 8. สมุจจยวาร 7. เสขิยกัณฑ์
2. ภิกษุเสพเมถุนธรรมในซากศพที่ถูกสัตว์กัดกินโดยมาก ต้องอาบัติ
ถุลลัจจัย
3. ภิกษุสอดองคชาตเข้าไปในปากที่อ้า แต่มิได้ถูกต้อง ต้องอาบัติ
ทุกกฏ
4. ภิกษุณีต้องอาบัติปาจิตตีย์ เพราะใช้ท่อนยาง
เพราะการเสพเมถุนธรรมเป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 4 อย่างเหล่านี้
ถาม : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติเท่าไร บรรดากอง
อาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติเท่าไร บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน
เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร บรรดาอธิกรณ์ 4 อย่าง เป็นอธิกรณ์ไหน บรรดาสมถะ
7 อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติ 2 อย่าง คือ
(1) สีลวิบัติ (2) อาจารวิบัติ
บรรดากองอาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติ 4 กอง คือ (1) กองอาบัติ
ปาราชิก (2) กองอาบัติถุลลัจจัย (3) กองอาบัติปาจิตตีย์ (3) กองอาบัติทุกกฏ
บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน 1 สมุฏฐาน คือ
เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา
บรรดาอธิกรณ์ 4 อย่าง เป็นอาปัตตาธิกรณ์
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะ 3 อย่าง คือ (1) สัมมุขาวินัย
(2) ปฏิญญาตกรณะ (3) สัมมุขาวินัยกับติณวัตถารกะ
ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :200 }